วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ตื่นนอนแล้วรู้สึกเป็นอย่างนี้ไหม


ตอนเช้าตื่นนอนมาตามปกติพอตื่นมา  ก็พลิกตัวตะแคงตัวนอนปรากฎว่าห้องหมุนเป็นประมาณ1นาทีก็หายคิดว่าคงไม่เป็นอะไร เลยกลับตัวตะแคงตัวไปอีกด้านก็เป็นอีก เป็นแบบนี้ตลอดเวลานอนตะแคง นึกว่าเป็นเพราะนอนน้อยเลยนอนต่ออีกหน่อย ตื่นมาอีกรอบก็ยังเป็นอีก
ต้องออกไปธุระข้างนอก ฝืนลุกไปข้างนอกปรากฎว่าไม่มีอาการเลย ก็คิดว่าหายแล้ว กลับมาถึงบ้านตอนค่ำ พอจะนอนอาการเดิมกลับมาเลย
ถามว่า...
1.เราเป็นอะไรอาการแบบนี้ ร้ายแรงไหม
2.สาเหตุมาจากอะไร
3.ต้องทำอย่างไรบ้าง/กินยาอะไร ถึงจะหาย มันหมุนๆแล้วทรมาน
เชื่อว่าหลายคนเคยมีอาการวิงเวียนศีรษะกันมาบ้าง ซึ่งปกติแล้วก็เป็นอาการที่ไม่อันตรายเท่าไร แต่ก็ยังมีอาการเวียนศีรษะอีกอย่างหนึ่งเรียกว่า อาการบ้านหมุน ที่ทำให้รู้สึกเหมือนสิ่งของรอบข้างหมุนได้ และทำให้เสียการทรงตัว จนกระทบต่อชีวิตประจำวัน แถมอาการนี้ยังเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัยอีกด้วย แต่สาเหตุนั้นจะเกิดจากอะไร อันตรายหรือไม่ แล้วควรดูแลตัวเองอย่างไรหากรู้สึกเวียนศีรษะบ้านหมุน เราไปค้นหาคำตอบพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าค่ะ

อาการบ้านหมุน คืออะไร


          บ้านหมุน ภาษาอังกฤษคือ vertigo หมายถึงอาการวิงเวียนศีรษะที่รุนแรงกว่าปกติ อาการที่เห็นได้ชัดคือจะรู้สึกเหมือนว่าบ้านหรือสิ่งของที่อยู่รอบ ๆ ตัว หมุนได้ นอกจากนี้ผู้ที่เป็นยังจะรู้สึกเสียการทรงตัว และมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนอีกด้วย โดยอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน เกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ทั้งนี้อาการบ้านหมุนไม่ใช่อาการอันตราย และมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่อาการดังกล่าวจะเป็นสัญญาณของโรคร้าย อย่างไรก็ตาม อาการเวียนศีรษะ-บ้านหมุนไม่ถือเป็นอาการในกลุ่มเดียวกับอาการมึนงง หรืออาการเวียนเมารถ เมาเรือ แต่ก็สามารถรักษาได้ด้วยยาแก้เมารถเมาเรือค่ะ


บ้านหมุน เกิดจากอะไร

          สาเหตุของอาการบ้านหมุนนั้นเกิดจากปัญหาเรื่องการทรงตัวของร่างกาย ซึ่งโดยปกติแล้วร่างกายจะสามารถทรงตัวให้เป็นปกติได้ก็ต้องพึ่งพาการทำงานของอวัยวะทั้ง 3 ส่วนที่ทำงานประสานกันนั่นก็คือ สายตา ระบบประสาทความรู้สึก และหู โดยจะมีสมองควบคุมและสั่งการ ซึ่งถ้าหากหนึ่งในอวัยวะทั้ง 3 ส่วนนี้มีการทำงานที่ผิดปกติไปก็จะทำให้เกิดการเสียสมดุลในร่างกาย และทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุนนั่นเอง ทั้งนี้สาเหตุที่อาจทำให้อวัยวะต่าง ๆ เสียสมดุล มีดังนี้

1. ความผิดปกติของระบบหู

          หู ไม่เพียงแค่ช่วยทำให้ได้ยิน แต่ก็ยังมีผลต่อการทรงตัวของร่างกายอีกด้วย โดยหูจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ หูชั้นใน หูชั้นกลาง และหูชั้นนอก ซึ่งสาเหตุของอาการบ้านหมุนที่มาจากหู มีดังนี้

          - หูชั้นนอก

          เกิดการอุดตันเนื่องจากขี้หู, เนื้องอก, หนอง, การอักเสบของหูชั้นนอกหรือหูชั้นกลาง รวมทั้งอาการกระดูกช่องหูหักจากอุบัติเหตุ

          - หูชั้นกลาง

          อาจเกิดจากอาการเลือดคั่งในหูชั้นกลางจากอุบัติเหตุ หรือความเปลี่ยนแปลงของความดันอากาศ, หูน้ำหนวก, หรือการทำงานที่ผิดปกติของท่อยูสเตเชียน (Eustachian) ที่เป็นท่อเชื่อมต่อระหว่างโพรงหลังจมูกและหูชั้นกลาง โดยมีสาเหตุมาจากโรคแพ้อากาศ, จมูกอักเสบภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ หรือกิจกรรมที่มีความเปลี่ยนแปลงของความดันอากาศอย่างการดำน้ำ หรือการขึ้น-ลงที่สูง การไอ การจาม อย่างรุนแรง จนทำให้เยื่อบาง ๆ ระหว่างหูชั้นกลางและหูชั้นในทะลุ นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากเนื้องอกที่บริเวณโพรงหลังจมูกได้อีกด้วย

          - หูชั้นใน

          เกิดจากภาวะติดเชื้อของหูชั้นในที่ลามไปถึงหูชั้นกลางอย่างเฉียบพลัน หรือทำให้เยื่อหุ้มสมองอักเสบ, หูน้ำหนวก การอักเสบของหูชั้นในจากสารพิษที่มาจากยาที่มีพิษต่อระบบประสารอย่างยาต้านจุลชีพบางชนิด รวมทั้งอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ หรือการได้รับแรงกระแทกที่ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บจากหูชั้นในก็ยังทำให้เกิดอาการบ้านหมุนได้เช่นกัน

          อย่างไรก็ตามสาเหตุที่เกิดจากหูชั้นในก็ยังอาจเกิดจากโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน (Meniere’s Disease) ที่ไม่ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด รวมทั้งโรคก้อนหินปูนเคลื่อนที่ในหูชั้นใน (benign paroxysmal positional vertigo - BPPV) ที่จะก่อให้เกิดอาการเวียนศีรษะเวลาหันหน้าไปทางใดทางหนึ่งอีกด้วย



วิงเวียนศีรษะ

2. โรคเกี่ยวกับระบบประสาท และสมอง

          การทำงานที่ผิดปกติของระบบประสาท และสมอง ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการบ้านหมุนได้ ซึ่งโรคเหล่านี้ไม่ได้แค่เพียงทำให้เวียนศีรษะ แต่ยังส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ โดยสาเหตุที่เกิดจากระบบประสาทประกอบด้วยโรคเส้นประสาทการทรงตัวอักเสบ เนื้องอกที่ประสาทการทรงตัว โรคของระบบประสาทส่วนกลาง ภาวะขาดเลือดของระบบประสาทส่วนกลาง ความเสื่อมของระบบประสาทส่วนกลางที่ทำหน้าที่ในการทรงตัว และการติดเชื้อที่ระบบประสาท เป็นต้น

3. โรคอื่น ๆ

          ไม่เพียงแต่โรคที่เกี่ยวกับระบบประสาทเท่านั้นที่ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ-บ้านหมุน แต่ยังอาจเกิดจากโรคต่าง ๆ เช่น โรคภูมิแพ้ตัวเอง โรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือดสูงผิดปกติ เลือดออกง่ายผิดปกติ โรคหลอดเลือดแข็ง โรคความดันโลหิตสูง-ต่ำ โรคเบาหวาน โรคกระดูกต้นคอเสื่อม โรคไต หรือโรคภูมิแพ้ เป็นต้น

          นอกจากทั้ง 3 สาเหตุนี้ที่ทำให้ร่างกายเกิดการเสียสมดุลจนทำให้เกิดอาการบ้านหมุนแล้ว อาการดังกล่าวยังอาจเกิดได้โดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งจะต้องให้แพทย์วินิจฉัยเป็นกรณี ๆ ไป

บ้านหมุน อันตรายหรือไม่

          โดยทั่วไปแล้วอาการเวียนศีรษะ-บ้านหมุน ไม่ใช่อาการที่เป็นอันตราย แต่ก็เป็นอาการที่ควรระมัดระวัง เพราะเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก และเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานกับเครื่องจักร หรือคนที่ต้องขับขี่ยานพาหนะ นอกเหนือจากนั้น หากมีอาการอาเจียนร่วมด้วย ก็จะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่ ซึ่งถ้าหากไม่ได้น้ำและเกลือแร่ทดแทนก็จะทำให้ช็อก และถึงขั้นเสียชีวิต ส่วนผู้ที่เกิดอาการบ้านหมุนจากภาวะของโรคอื่น ๆ นั้นก็จะมีอันตรายสืบเนื่องมาจากอาการของโรคเช่นกันค่ะ




วิงเวียนศีรษะ

บ้านหมุน รักษาอย่างไร

          อาการเวียนศีรษะ-บ้านหมุน เป็นอาการที่สามารถหายเองได้ เนื่องจากไม่ใช่โรคที่ต้องใช้ยารักษา และเป็นเพียงอาการที่เกิดขึ้นชั่วคราว ทั้งนี้เมื่อเกิดอาการแล้วควรมีวิธีปฏิบัติตนดังนี้

          1. นอนพัก และหลับตา เพื่อให้ร่างกายได้ปรับสมดุลอย่างเต็มที่
          2. หยุดทำกิจกรรมทุกอย่างโดยทันที เพราะอาการนี้ถึงแม้จะไม่อันตราย แต่ก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน
          3. ดื่มน้ำอุ่น ๆ การดื่มน้ำจะช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ และช่วยไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ เพราะหากร่างกายขาดน้ำแล้วจะยิ่งทำให้เวียนศีรษะยิ่งกว่าเดิม
          4. รับประทานยาในกลุ่มไดเมนไฮดริเนต (dimenhydrinate) ซึ่งเป็นยาแก้เมารถ เมาเรือ จะช่วยให้อาการทุเลาไวขึ้น

          ทั้งนี้ หากปฏิบัติตนตามนี้แล้ว อาการยังไม่ทุเลาและหายไปภายใน 8-12 ชั่วโมง มีอาการอาเจียนรุนแรง จนไม่สามารถดื่มน้ำหรือทำอะไรได้ หรือเป็นบ่อยจนรบกวนกับการใช้ชีวิตประจำวันมากเกินไป ก็ควรรีบไปพบแพทย์ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณอันตรายของโรคบางอย่าง จึงควรได้รับการวินิจฉัยอย่างละเอียดค่ะ

เวียนหัว บ้านหมุน ป้องกันได้อย่างไร

          อาการบ้านหมุนไม่ใช่อาการที่สามารถป้องกันได้ 100% เนื่องจากบางครั้งก็เกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงทำได้เพียงดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำ พยายามอย่าเครียด และหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งควรเลี่ยงอาหารที่มีรสหวานจัด เค็มจัด หรือมันมาก ๆ  ส่วนคนที่มีปัญหาสุขภาพที่จะก่อให้เกิดอาการบ้านหมุน ก็ควรละเว้นจากปัจจัยที่จะก่อให้เกิดอาการได้ และควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดอีกด้วยค่ะ

          ได้รู้จักกับอาการบ้านหมุนกันมากขึ้นแล้ว จะเห็นได้ว่าไม่ใช่อาการที่น่ากลัวเลยใช่ไหมล่ะคะ ฉะนั้นถ้าหากเกิดอาการขึ้นก็ไม่ต้องตกใจ แค่เพียงปฏิบัติให้ถูกต้องเท่านั้น อาการก็จะทุเลาลงได้แล้วล่ะค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
หมอชาวบ้าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น