ตอนเช้าตื่นนอนมาตามปกติพอตื่นมา ก็พลิกตัวตะแคงตัวนอนปรากฎว่าห้องหมุนเป็นประมาณ1นาทีก็หายคิดว่าคงไม่เป็นอะไร
เลยกลับตัวตะแคงตัวไปอีกด้านก็เป็นอีก เป็นแบบนี้ตลอดเวลานอนตะแคง
นึกว่าเป็นเพราะนอนน้อยเลยนอนต่ออีกหน่อย
ตื่นมาอีกรอบก็ยังเป็นอีก
ต้องออกไปธุระข้างนอก
ฝืนลุกไปข้างนอกปรากฎว่าไม่มีอาการเลย ก็คิดว่าหายแล้ว
กลับมาถึงบ้านตอนค่ำ พอจะนอนอาการเดิมกลับมาเลย
ถามว่า...
1.เราเป็นอะไรอาการแบบนี้
ร้ายแรงไหม
2.สาเหตุมาจากอะไร
3.ต้องทำอย่างไรบ้าง/กินยาอะไร
ถึงจะหาย มันหมุนๆแล้วทรมาน
เชื่อว่าหลายคนเคยมีอาการวิงเวียนศีรษะกันมาบ้าง
ซึ่งปกติแล้วก็เป็นอาการที่ไม่อันตรายเท่าไร แต่ก็ยังมีอาการเวียนศีรษะอีกอย่างหนึ่งเรียกว่า
อาการบ้านหมุน ที่ทำให้รู้สึกเหมือนสิ่งของรอบข้างหมุนได้ และทำให้เสียการทรงตัว
จนกระทบต่อชีวิตประจำวัน แถมอาการนี้ยังเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัยอีกด้วย
แต่สาเหตุนั้นจะเกิดจากอะไร อันตรายหรือไม่
แล้วควรดูแลตัวเองอย่างไรหากรู้สึกเวียนศีรษะบ้านหมุน เราไปค้นหาคำตอบพร้อม ๆ
กันเลยดีกว่าค่ะ
อาการบ้านหมุน
คืออะไร
บ้านหมุน ภาษาอังกฤษคือ vertigo หมายถึงอาการวิงเวียนศีรษะที่รุนแรงกว่าปกติ
อาการที่เห็นได้ชัดคือจะรู้สึกเหมือนว่าบ้านหรือสิ่งของที่อยู่รอบ ๆ ตัว หมุนได้
นอกจากนี้ผู้ที่เป็นยังจะรู้สึกเสียการทรงตัว และมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนอีกด้วย
โดยอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน เกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย
โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ทั้งนี้อาการบ้านหมุนไม่ใช่อาการอันตราย
และมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่อาการดังกล่าวจะเป็นสัญญาณของโรคร้าย อย่างไรก็ตาม
อาการเวียนศีรษะ-บ้านหมุนไม่ถือเป็นอาการในกลุ่มเดียวกับอาการมึนงง
หรืออาการเวียนเมารถ เมาเรือ แต่ก็สามารถรักษาได้ด้วยยาแก้เมารถเมาเรือค่ะ
บ้านหมุน
เกิดจากอะไร
สาเหตุของอาการบ้านหมุนนั้นเกิดจากปัญหาเรื่องการทรงตัวของร่างกาย
ซึ่งโดยปกติแล้วร่างกายจะสามารถทรงตัวให้เป็นปกติได้ก็ต้องพึ่งพาการทำงานของอวัยวะทั้ง
3 ส่วนที่ทำงานประสานกันนั่นก็คือ สายตา ระบบประสาทความรู้สึก และหู
โดยจะมีสมองควบคุมและสั่งการ ซึ่งถ้าหากหนึ่งในอวัยวะทั้ง 3
ส่วนนี้มีการทำงานที่ผิดปกติไปก็จะทำให้เกิดการเสียสมดุลในร่างกาย และทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ
บ้านหมุนนั่นเอง ทั้งนี้สาเหตุที่อาจทำให้อวัยวะต่าง ๆ เสียสมดุล มีดังนี้
1.
ความผิดปกติของระบบหู
หู ไม่เพียงแค่ช่วยทำให้ได้ยิน
แต่ก็ยังมีผลต่อการทรงตัวของร่างกายอีกด้วย โดยหูจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ
หูชั้นใน หูชั้นกลาง และหูชั้นนอก ซึ่งสาเหตุของอาการบ้านหมุนที่มาจากหู มีดังนี้
- หูชั้นนอก
เกิดการอุดตันเนื่องจากขี้หู, เนื้องอก, หนอง, การอักเสบของหูชั้นนอกหรือหูชั้นกลาง
รวมทั้งอาการกระดูกช่องหูหักจากอุบัติเหตุ
- หูชั้นกลาง
อาจเกิดจากอาการเลือดคั่งในหูชั้นกลางจากอุบัติเหตุ
หรือความเปลี่ยนแปลงของความดันอากาศ,
หูน้ำหนวก, หรือการทำงานที่ผิดปกติของท่อยูสเตเชียน
(Eustachian) ที่เป็นท่อเชื่อมต่อระหว่างโพรงหลังจมูกและหูชั้นกลาง
โดยมีสาเหตุมาจากโรคแพ้อากาศ, จมูกอักเสบภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ
หรือกิจกรรมที่มีความเปลี่ยนแปลงของความดันอากาศอย่างการดำน้ำ
หรือการขึ้น-ลงที่สูง การไอ การจาม อย่างรุนแรง จนทำให้เยื่อบาง ๆ
ระหว่างหูชั้นกลางและหูชั้นในทะลุ
นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากเนื้องอกที่บริเวณโพรงหลังจมูกได้อีกด้วย
- หูชั้นใน
เกิดจากภาวะติดเชื้อของหูชั้นในที่ลามไปถึงหูชั้นกลางอย่างเฉียบพลัน
หรือทำให้เยื่อหุ้มสมองอักเสบ, หูน้ำหนวก
การอักเสบของหูชั้นในจากสารพิษที่มาจากยาที่มีพิษต่อระบบประสารอย่างยาต้านจุลชีพบางชนิด
รวมทั้งอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ หรือการได้รับแรงกระแทกที่ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บจากหูชั้นในก็ยังทำให้เกิดอาการบ้านหมุนได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตามสาเหตุที่เกิดจากหูชั้นในก็ยังอาจเกิดจากโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน
(Meniere’s Disease) ที่ไม่ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด
รวมทั้งโรคก้อนหินปูนเคลื่อนที่ในหูชั้นใน (benign
paroxysmal positional vertigo - BPPV) ที่จะก่อให้เกิดอาการเวียนศีรษะเวลาหันหน้าไปทางใดทางหนึ่งอีกด้วย
วิงเวียนศีรษะ
2.
โรคเกี่ยวกับระบบประสาท และสมอง
การทำงานที่ผิดปกติของระบบประสาท
และสมอง ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการบ้านหมุนได้ ซึ่งโรคเหล่านี้ไม่ได้แค่เพียงทำให้เวียนศีรษะ
แต่ยังส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ
โดยสาเหตุที่เกิดจากระบบประสาทประกอบด้วยโรคเส้นประสาทการทรงตัวอักเสบ
เนื้องอกที่ประสาทการทรงตัว โรคของระบบประสาทส่วนกลาง
ภาวะขาดเลือดของระบบประสาทส่วนกลาง ความเสื่อมของระบบประสาทส่วนกลางที่ทำหน้าที่ในการทรงตัว
และการติดเชื้อที่ระบบประสาท เป็นต้น
3. โรคอื่น ๆ
ไม่เพียงแต่โรคที่เกี่ยวกับระบบประสาทเท่านั้นที่ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ-บ้านหมุน
แต่ยังอาจเกิดจากโรคต่าง ๆ เช่น โรคภูมิแพ้ตัวเอง โรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์
โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือดสูงผิดปกติ เลือดออกง่ายผิดปกติ โรคหลอดเลือดแข็ง
โรคความดันโลหิตสูง-ต่ำ โรคเบาหวาน โรคกระดูกต้นคอเสื่อม โรคไต หรือโรคภูมิแพ้
เป็นต้น
นอกจากทั้ง 3
สาเหตุนี้ที่ทำให้ร่างกายเกิดการเสียสมดุลจนทำให้เกิดอาการบ้านหมุนแล้ว
อาการดังกล่าวยังอาจเกิดได้โดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งจะต้องให้แพทย์วินิจฉัยเป็นกรณี ๆ
ไป
บ้านหมุน
อันตรายหรือไม่
โดยทั่วไปแล้วอาการเวียนศีรษะ-บ้านหมุน
ไม่ใช่อาการที่เป็นอันตราย แต่ก็เป็นอาการที่ควรระมัดระวัง
เพราะเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก
และเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานกับเครื่องจักร
หรือคนที่ต้องขับขี่ยานพาหนะ นอกเหนือจากนั้น หากมีอาการอาเจียนร่วมด้วย
ก็จะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่
ซึ่งถ้าหากไม่ได้น้ำและเกลือแร่ทดแทนก็จะทำให้ช็อก และถึงขั้นเสียชีวิต
ส่วนผู้ที่เกิดอาการบ้านหมุนจากภาวะของโรคอื่น ๆ
นั้นก็จะมีอันตรายสืบเนื่องมาจากอาการของโรคเช่นกันค่ะ
วิงเวียนศีรษะ
บ้านหมุน
รักษาอย่างไร
อาการเวียนศีรษะ-บ้านหมุน
เป็นอาการที่สามารถหายเองได้ เนื่องจากไม่ใช่โรคที่ต้องใช้ยารักษา
และเป็นเพียงอาการที่เกิดขึ้นชั่วคราว
ทั้งนี้เมื่อเกิดอาการแล้วควรมีวิธีปฏิบัติตนดังนี้
1. นอนพัก และหลับตา
เพื่อให้ร่างกายได้ปรับสมดุลอย่างเต็มที่
2. หยุดทำกิจกรรมทุกอย่างโดยทันที
เพราะอาการนี้ถึงแม้จะไม่อันตราย แต่ก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน
3. ดื่มน้ำอุ่น ๆ
การดื่มน้ำจะช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ และช่วยไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ
เพราะหากร่างกายขาดน้ำแล้วจะยิ่งทำให้เวียนศีรษะยิ่งกว่าเดิม
4. รับประทานยาในกลุ่มไดเมนไฮดริเนต (dimenhydrinate) ซึ่งเป็นยาแก้เมารถ เมาเรือ
จะช่วยให้อาการทุเลาไวขึ้น
ทั้งนี้ หากปฏิบัติตนตามนี้แล้ว
อาการยังไม่ทุเลาและหายไปภายใน 8-12 ชั่วโมง มีอาการอาเจียนรุนแรง
จนไม่สามารถดื่มน้ำหรือทำอะไรได้
หรือเป็นบ่อยจนรบกวนกับการใช้ชีวิตประจำวันมากเกินไป ก็ควรรีบไปพบแพทย์
เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณอันตรายของโรคบางอย่าง
จึงควรได้รับการวินิจฉัยอย่างละเอียดค่ะ
เวียนหัว
บ้านหมุน ป้องกันได้อย่างไร
อาการบ้านหมุนไม่ใช่อาการที่สามารถป้องกันได้ 100% เนื่องจากบางครั้งก็เกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ
จึงทำได้เพียงดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำ พยายามอย่าเครียด
และหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งควรเลี่ยงอาหารที่มีรสหวานจัด เค็มจัด
หรือมันมาก ๆ ส่วนคนที่มีปัญหาสุขภาพที่จะก่อให้เกิดอาการบ้านหมุน
ก็ควรละเว้นจากปัจจัยที่จะก่อให้เกิดอาการได้
และควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดอีกด้วยค่ะ
ได้รู้จักกับอาการบ้านหมุนกันมากขึ้นแล้ว
จะเห็นได้ว่าไม่ใช่อาการที่น่ากลัวเลยใช่ไหมล่ะคะ ฉะนั้นถ้าหากเกิดอาการขึ้นก็ไม่ต้องตกใจ
แค่เพียงปฏิบัติให้ถูกต้องเท่านั้น อาการก็จะทุเลาลงได้แล้วล่ะค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
หมอชาวบ้าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น