แต่สิ่งที่อยู่ในใจ หรือในความคิดนั้น ผู้สูงอายุมักจะไม่พูดออกมา และเก็บเอาไปคิดเพียงคนเดียว ซึ่งในความเป็นจริงท่านอาจจะวิตกกังวลเกินไป จนทำให้เสียสุขภาพจิตได้ 3สิ่งนั้น มีดังนี้
1. เป็นภาระของลูกหลาน
ผู้สูงอายุมักคิดว่าตนเองไม่สามารถทำมาหาเลี้ยงตนเองได้แล้ว บางท่านก็ต้องพึ่งพาอาศัยเงินเลี้ยงดูจากลูกหลาน และยังต้องให้ลูกหลานคอยดูแลเรื่องต่างๆ ให้อีกด้วย จึงคิดว่าตนเป็นภาระของผู้อื่น
การแสดงออกมักแสดงออกเป็นท่าทางหรือคำพูดที่น้อยใจ ไม่กล้ารบกวน หรือไม่กล้าใช้อะไร เป็นต้น ซึ่งคุณสามารถแก้ไขได้โดยการให้ความสำคัญกับท่านมากๆ และบอกเสมอว่าท่านคือบุคคลสำคัญของครอบครัวที่คุณต้องดูแลให้ดี และเป็นบุคคลที่คุณเคารพรัก อีกทั้งสอนลูกหลานให้เคารพรักผู้สูงอายุด้วย
2. กลัวความตาย
ผู้สูงอายุหลายท่านกลัวความตาย เนื่องจากตนเองอายุมากแล้ว และยังมีโรคประจำตัวให้เจ็บป่วยบ่อยอีกด้วย หลายครั้งจึงนั่งนึกถึงว่าเมื่อไรตนเองจะต้องจากโลกนี้ไป จนใจหดหู่ และไม่มีความสุข
คุณสามารถช่วยให้ท่านมีสุขภาพจิตดีขึ้นด้วยการหางานอดิเรกที่ท่านชอบให้ทำ พาไปเที่ยวเมื่อมีโอกาส หมั่นซื้อของโปรด หรือของชอบมาฝาก ให้ท่านได้ทำในสิ่งที่อยากทำในชีวิตนี้ เป็นต้น เพื่อให้ท่านมีความสุขที่สุดในบั้นปลาย และไม่มีเวลามานั่งคิดมาก ก็จะช่วยแก้ปัญหาคิดมากเรื่องนี้ได้
3. เป็นห่วงลูกหลาน
ร้อยทั้งร้อย ผู้สูงอายุมักเป็นห่วงอนาคตของลูกหลาน ด้วยความที่มองว่าลูกหลานในบ้านคือเด็กเสมอ จึงต้องคอยห่วงทุกเรื่องไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม กลัวว่าถ้าตนจากไปแล้วลูกหลานจะลำบาก จะไม่มีที่พึ่ง หรือยังอยากเห็นลูกหลานประสบความสำเร็จก่อนจึงค่อยจากไป
สิ่งเหล่านี้ คุณสามารถแก้ไขได้โดยการดูแลตนเองให้ดี ทำให้ท่านภาคภูมิใจ และเห็นว่าคุณสามารถดูแลตนเอง และพาตนเองไปในจุดที่ดีได้ รวมถึงอบรมสั่งสอนลูกหลานให้เป็นคนดีมีอนาคตต่อไปได้
นอกจากการดูแลด้านร่างกายแล้ว อย่าลืมใส่ใจด้านจิตใจของผู้สูงอายุด้วยนะคะ จิตใจก็เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ช่วยให้มีสุขภาพจิตที่ดี และมีอายุยืนยาวอย่างมีความสุขได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น