วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

กลุ่มโรค NCDs “ภัยเงียบ” คร่าชีวิตคนไทย 73% ต่อปี

  

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ณ อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดงานแถลงข่าว “กลุ่มโรค NCDs วิกฤตโรค วิกฤตโลก” พร้อมเปิดตัวแคมเปญรณรงค์ “กลุ่มโรค NCDs โรคที่คุณสร้างเอง” ที่จะเผยแพร่และสร้างความตระหนักให้กับคนไทยเห็นความสำคัญของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคในกลุ่ม NCDs


/i>


           ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า ตลอดกว่า 10 ปี ในการทำงานเสริมสุขภาวะร่วมกับภาคีเครือข่าย พบคนไทยต้องเผชิญภัยเงียบ โดยเฉพาะกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือกลุ่มโรค NCDs (Non-Communicable diseases) ที่มีสถิติผู้เจ็บป่วยและเสียชีวิตสูงเป็นอันดับหนึ่ง และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ จากข้อมูลสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ (IHPP) ปี 2552(สำรวจ 4 ปี/ครั้ง) ไทยมีผู้ป่วยด้วยโรคในกลุ่มนี้ถึง 14 ล้านคน เสียชีวิตมากกว่า 3 แสนคน หรือคิดเป็น 73% ของการเสียชีวิตของประชากรไทยทั้งหมด และมากกว่าครึ่งเสียชีวิตก่อนอายุ 60 ปี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจถึง 2 แสนล้านบาท/ปี

           “ข้อมูลองค์การอนามัยโลก ระบุประชากรทั่วโลกเสียชีวิตด้วยกลุ่มโรค NCDs 63% และที่สำคัญเป็นประชากรในประเทศกำลังพัฒนาถึง 80% ขณะที่คนไทยเสียชีวิตด้วยกลุ่มโรคนี้สูงกว่าอัตราการเสียชีวิตเฉลี่ยของประชากรทั้งโลกถึง 10% และสูงกว่าทุกประเทศในโลก และมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่กลุ่มโรค NCDs เป็นโรคที่เกิดจากปัจจัยที่หลีกเลี่ยงและป้องกันได้ทพ.กฤษดา กล่าว

            ซึ่งโรคในกลุ่ม โรค NCDs ที่มีอัตราผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตสูงสุด 6 โรค ได้แก่
1.            โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus)
2.            โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ (Cardiovascular & Cerebrovascular Diseases )
3.            โรคถุงลมโป่งพอง (Emphysema)
4.            โรคมะเร็ง (Cancer)
5.            โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension)
6.            โรคอ้วนลงพุง (Obesity)ซึ่งเกิดจาก 6 ปัจจัยเสี่ยง คือ เหล้า บุหรี่ อาหาร (หวาน-มัน-เค็มจัด) การออกกำลังกายไม่เพียงพอ ความเครียด และกรรมพันธุ์ สสส.จึงได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย อาทิ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ (IHPP) มหาวิทยาลัยมหิดล ขับเคลื่อนการทำงานในรูปแบบ NCDs Network เชื่อมโยงข้อมูลการทำงาน และแนวทางในการรณรงค์ ป้องกัน ตลอดจนหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเหล่านี้ โดยเน้นที่การเริ่มต้นปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเอง ซึ่งช่วยลดโอกาสเสี่ยงการเกิดโรคได้ถึง 80%
            รศ.ดร.วิลาสินี อดุลยานนท์ ผู้อำนวยการสำนักรณรงค์สื่อสารสังคม สสส. กล่าวว่า สสส.ได้นำประเด็นกลุ่มโรค NCDs มาเป็นประเด็นในการสื่อสารหลักประจำปี 2557 โดยเน้นเตือนภัย “6-6-5” คือ 6 โรคที่มีผู้เสียชีวิตสูง 6 ปัจจัยเสี่ยงหลัก และ 5 แนวทางในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม คือ ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ เลี่ยงอาหารหวาน-มัน-เค็ม เพิ่มผักผลไม้ การออกกำลังกาย อย่างน้อย 30นาที/วัน (5ครั้ง/สัปดาห์) และอารมณ์ดี คิดบวก พักผ่อนให้เพียงพอ โดยนอกจากการรณรงค์ร่วมกับภาคีเครือข่ายผ่านสื่อแขนงต่างๆ ทั่วประเทศแล้ว ได้จัดทำภาพยนตร์โฆษณารณรงค์ชุด “Slow” เพื่อสื่อสารถึงพฤติกรรมเสี่ยงในชีวิตประจำวันที่ค่อยๆ สะสมและนำไปสู่โรคในกลุ่มโรค NCDs ในอนาคต รวมทั้งร่วมกับสถานีโทรทัศน์ Thai PBS ผลิตรายการ  ชีวิต |ลิขิต|โรค และ NCDs Reality เพราะรักจึงยอมเปลี่ยนแปลง โดยคัดเลือกอาสาสมัครที่มีความเสี่ยงมาปรับเปลี่ยนตัวเองด้านต่างๆ
            นพ.ขวัญประชา เชียงไชยสกุลไทย นักวิจัยสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ กล่าวว่า การรณรงค์เพื่อกระตุ้นเตือนให้ประชาชนตระหนักถึงปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ถือเป็นความจำเป็นที่ในหลายประเทศให้ความสำคัญ รวมทั้งการใช้มาตรการทางกฎหมายควบคู่ไปด้วย อาทิ การขึ้นภาษียาสูบ แอลกอฮอล์ อาหารในกลุ่มที่มีน้ำตาล/เกลือสูง อย่างไรก็ตาม สสส.ร่วมกับเครือข่ายวิชาการ จัดทำแบบประเมินความเสี่ยงกลุ่มโรค NCDs  (NCDs Quiz)  การตรวจหาความเสี่ยงด้วยตนเองเบื้องต้น เพื่อช่วยให้ตนเองได้ทราบว่าควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใดบ้าง ที่ www.ncdsthailand.com สามารถทำได้ ปีละครั้ง หรือ 6 เดือนครั้ง หากคิดว่าตนเองมีความเสี่ยงมาก ซึ่ง กลุ่มโรค NCDs จะไม่มีสัญญาณใดๆ เมื่อเริ่มมีสัญญาณหมายถึงเจ็บป่วยแล้ว หากผู้ป่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองได้ ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาและลดการใช้ยาลงได้

            ศ.พญ.วรรณี นิธิยานันท์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาต่อมไร้ท่อและเมตะบอลิสม คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ปัจจุบันแนวโน้มผู้ป่วยกลุ่มโรค NCDs เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งพบผู้ป่วยที่มีอายุน้อยลงเรื่อยๆ และเชื่อว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พิจารณาจากอัตราน้ำหนักตัวของประชากรที่อยู่ในเกณฑ์เกินมาตรฐานมีจำนวนเพิ่มขึ้น ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงหนึ่งที่จะทำให้เกิดกลุ่มโรค NCDs ขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก่อนที่จะเกิดโรค โดยอาหารถือเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด สามารถปรับโดยการลดหวาน มัน เค็ม บริโภคให้ครบ 5 หมู่ และ ควรลดหรือเลิกดื่มเหล้า สูบบุหรี่  ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้เกิดหลายโรคเช่นกัน เพิ่มการออกกำลังกาย และหากิจกรรมคลายเครียด ก็จะเป็นวิธีป้องกันกลุ่มโรค NCDs ได้อย่างดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น