วันศุกร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2559

มารู้จัก “หลอดเลือด” กันเถอะ


หลอดเลือดมีอยู่ทุกส่วนของร่างกาย มีหน้าที่นำสารอาหาร และก๊าซออกซิเจนที่ลำเลียงไปกับเลือด เพื่อไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย เมื่อไปถึงเซลล์จะมีการแลกเปลี่ยนอาหารและก๊าซต่างๆ ถ้านำหลอดเลือดในร่างกายมาต่อกันจะมีความยาวประมาณ 100,000 ไมล์ (96,000 กม. สามารถพันรอบโลกได้ 2.5 รอบ!!) ซึ่งเยอะมากๆ
หลอดเลือดในร่างกายแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ
1.หลอดเลือดแดง ( Artery )
2.หลอดเลือดดำ ( Vein )
3.หลอดเลือดฝอย ( Capillary )
หลอดเลือดแดง ( Artery )
หมายถึง
หลอดเลือดที่นำเลือดออกจากหัวใจ ซึ่งจะเป็นเลือดที่มีปริมาณออกซิเจนสูงเป็นเลือดที่มีสีแดงสด ไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆทั่วร่างกาย ( ยกเว้นหลอดเลือดที่ไปสู่ปอดชื่อ pulmonary artery ซึ่งจะนำเลือดดำจากหัวใจที่มีคาร์บอนไดออกไซด์สูงไปฟอกที่ปอด )
ลักษณะของหลอดเลือดแดง

- มีผนังหนา โดยจะมีลักษณะเป็นชั้นกล้ามเนื้อที่หนาและยืดหยุ่น ประกอบไปด้วยเนื้อเยื่อ 3 ชั้น คือเนื้อเยื่อด้านในสุดเป็นเนื้อเยื่อบุผิว ชั้นกลางเป็นเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อที่สามารถยืดหยุ่นได้ เนื้อเยื่อชั้นนอกเป็นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่ยืดหยุ่นได้เช่นเดียวกัน
- ผนังมีความยืดหยุ่นดีมาก เพราะประกอบไปด้วยเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ทำให้สามารถขยายตัวเพื่อรับแรงดันเลือดค่อนข้างสูงที่เกิดจากการบีบตัวของหัวใจห้องล่างซ้าย
เส้นเลือดแดงที่อยู่ไกลหัวใจออกไปจะมีขนาดเล็กลง กล้ามเนื้อน้อยลง ผนังมีความยืดหยุ่นน้อยลง ความดันเลือดน้อยลง เส้นเลือดแดงจะมีขนาดต่างๆกัน ขนาดใหญ่ที่สุด คือ หลอดเลือดแดงใหญ่ ผนังของหลอดเลือดแดงที่มีขนาดใหญ่ต้องมีความแข็งแรง และสามารถขยายตัวรับแรงดันของเลือดที่เคลื่อนผ่านตามจังหวะการเต้นของหัวใจ และหดตัวให้มีขนาดเท่าเดิมเมื่อแรงดันผ่านไป ดังนั้นเมือหลอดเลือดแดงซึ่งมีขนาดใหญ่ฉีกขาดเลือดจะพุ่งออกมาเป็นจังหวะตามการเต้นของหัวใจ
หลอดเลือดแดงมี 3 ขนาด เรียงจากขนาดใหญ่ไปขนาดเล็ก คือ
- เอออร์ตา ( aorta ) หลอดเลือดแดงขนาดใหญ่สุด ทำหน้าที่ลำเลียงเลือดแดงที่ถูกสูบฉีดออกจากหัวใจห้องล่างซ้ายโค้งไปทางด้านหลัง ทอดผ่านช่องอกและช่องท้อง ขนาดใหญ่สุดมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว
- อาร์เทอรี ( artery )หลอดเลือดแดง ทำหน้าที่นำเลือดไปเลี้ยวส่วนต่างๆของร่างกาย หลอดเลือดมีผนังกล้ามเนื้อหนาเพื่อให้ทนต่อแรงดันเลือด
- อาร์เทอริโอล ( arteriole )หลอดเลือดแดงเล็ก ซึ่งสามารถจะขยายตัวหรือหดตัวได้ เพื่อบังคับการไหลของเลือด
หลอดเลือดดำ ( Vein )
หมายถึง
หลอดเลือดที่นำเลือดที่มีของเสีย และคาร์บอนไดออกไซด์ ( เลือดดำ ) ที่ร่างกายใช้แล้วจากส่วนต่างๆของร่างกายกลับเข้าสู่หัวใจห้องบนขวา (Right atrium ) เพื่อนำกลับไปฟอกที่ปอด (ยกเว้นหลอดเลือดดำปอดที่ชื่อ pulmonary vein ซึ่งจะนำเลือดแดงที่ผ่านการฟอกจากปอดแล้วนำกลับเข้าสู่หัวใจห้องบนซ้าย) ภายในหลอดเลือดดำจะมีความดันต่ำ ถ้าหลอดเลือดดำฉีกขาด เลือดที่ไหลออกมาจะไหลรินๆคงที่ และสม่ำเสมอ ห้ามเลือดหยุดได้ง่ายกว่าหลอดเลือดแดงฉีกขาด
ลักษณะของเส้นเลือดดำ
- มีผนังบาง ประกอบด้วยเนื้อเยื่อ 3 ชั้น เช่นเดียวกับหลอดเลือดแดงแต่บางกว่า
- ผนังมีความยืดหยุ่นได้น้อย เพราะมีเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อเกี่ยวพันน้อย
- มีลิ้นกั้นไม่ให้เลือดไหลย้อนกลับ
หลอดเลือดดำมี 3 ขนาด เรียงจากขนาดใหญ่ไปขนาดเล็ก คือ
1.เวนาคาวา ( vena cava ) เป็นเส้นเลือดที่นำเลือดจากส่วนต่างๆของร่างกายเข้าสู่หัวใจ มีอยู่ 2 เส้น คือ
-สุพีเรีย เวนาคาวา (Superior Vena Cava) เป็นเส้นเลือดที่นำเลือดกลับจากหัว อก คอ และแขนเข้าสู่หัวใจ
- อินฟีเรีย เวนาคาวา(Inferior Vena Cava) เป็นเส้นเลือดดำที่นำเลือดจากส่วนต่างๆที่อยู่ต่ำกว่ากะบังลมไปยังหัวใจ
2.เวน ( vein )เป็นเส้นเลือดดำที่นำเลือดมาจากอวัยวะต่างๆของร่างกาย
3.เวนูล ( venule )เป็นเส้นเลือดดำที่มีขนาดเล็ก ติดกับเส้นเลือดฝอย
หลอดเลือดฝอย ( Capillary )
หมายถึง
หลอดเลือดที่เชื่อมต่อระหว่างหลอดเลือดแดงขนาดเล็ก ( arteriole ) ไปยังหลอดเลือดดำขนาดเล็ก (venule ) โดยจะแทรกอยู่ในเนื้อเยื่อต่างๆของร่างกาย เช่น ผิวหนัง กล้ามเนื้อ สมอง และอวัยวะอื่นๆ ยกเว้นเส้นผม และเล็บจะไม่มีหลอดเลือดฝอย
ลักษณะของเส้นเลือดฝอย
หลอดเลือดฝอยเป็นหลอดเลือดที่มีขนาดเล็กที่สุดในร่างกายมีทั้งเส้นเลือดแดงฝอย และเส้นเลือดดำฝอยมีเนื้อเยื่อบางมาก มีจำนวนมากเพราะเป็นส่วนที่ต้องแยกไปสู่ส่วนต่างๆของร่างกาย มีผนังบาง มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 7 ไมโครเมตร ประกอบด้วยเซลล์เพียงชั้นเดียว มีหน้าที่เป็นแหล่งที่มีการแลกเปลี่ยนก๊าซ และสารต่างๆระหว่างเลือดกับเซลล์ของร่างกาย์ โดยวิธีการแพร่ เส้นเลือดฝอยในร่างกายมีมาก เพราะเป็นส่วนที่ต้องแยกไปตามส่วนต่างๆของร่างกาย
ข้อมูล:จากอินเตอร์เน็ต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น