โทรศัพท์มือถือ
ยังไงก็เลี่ยงการใช้ไม่ได้ แต่เราต้องรู้ว่า โทรศัพท์จะปล่อยคลื่นรุนแรงเวลาไหน
โทรศัพท์มือถือ
ยังไงก็เลี่ยงการใช้ไม่ได้ แต่เราต้องรู้ว่า โทรศัพท์จะปล่อยคลื่นรุนแรงเวลาไหน
บางคนอาจเถียงว่า มีการทดสอบ กำหนดค่า
SAR Value แล้ว มันก็ต้องปลอดภัย มันไม่จริงหรอกครับ เพราะค่า SAR ที่เค้ากำหนดไว้
มันค่อนข้างสูง และเค้าวัดเวลาใช้งานพูดคุย
แต่อันตรายที่แรงๆของมือถือ มันมาจากเวลา WiFi
และ Data ทำงานรับส่งข้อมูล ค่า RF จะขึ้นไปสูงมากเป็นระดับ ร้อยๆ mW/m2 เลย อ่านที่นี่ค่ะhttp://blog.datarpgx.com/tag/uv-rays/
Radiations from cell phone are dangerous and can lead to cancer. So it’s advised that SAR (Specific Absorption Rate) of the phone should be checked while buying a new phone. It measures the radiofrequency energy absorbed by the body from the cell phone. You need to be more careful when you are in an area with weak signals, because phones work harder to search a signal and thus, emit more radiation.
ยิ่งบางคนไม่รู้
อยากประหยัดค่าโทรศัพท์ ใช้การโทรผ่าน Skype หรือ Line ซึ่งมันต้องใช้ WiFi หรือ Data และไม่ได้ใช้สายเสียบหูฟัง
นพ.สมชาย เดชอมรธัญ กล่าวว่า "ผมรับรองได้เลยว่า คนที่ใช้วิธีนี้ประจำ
จะเป็นเนื้องอกในสมองในเวลาไม่นานนัก เวลาที่ Data
ทำงาน RF ที่ออกมาจะรุนแรงกว่า WiFi ทำงาน"
"ถ้าคุณเล่นมือถือแล้วรู้สึกตึงนิ้ว
ข้อมือ ข้อศอก คอ บ่า ไหล่ ปวดตา นั่นแหละครับ คุณโดน EMF เล่นงานแล้ว
"
ถ้าคุณถือโทรศัพท์ไว้ระดับท้อง
หรือท้องน้อย ซึ่งเป็นบริเวณที่มีอวัยวะสำคัญทั้งนั้น
ก็อันตรายที่จะเกิดปัญหาในช่องท้อง เช่น มะเร็ง (WHO กำหนดให้ RF จากอุปกรณ์สื่อสาร อยู่ในกลุ่ม 2B
คือมีความเสี่ยงอาจก่อให้เกิดมะเร็งได้) ปัญหากับรังไข่ ในผู้หญิง
หรือ การผลิตน้ำอสุจิ ในผู้ชายอาจเป็นหมัน มีลูกยาก หรือผิดปกติทางพันธุกรรมได้
ดังนั้น เวลาเล่นมือถือ แนะนำว่า
-ให้วางบนโต๊ะ
อยู่ให้ห่างเท่าที่ทำได้ อย่าจับมือถือตลอดเวลาที่ WiFi หรือ
Data ทำงาน
-เวลาคุยโทรศัพท์
ถ้าต้องคุยนาน ควรใช้สายเสียบ ดีกว่าใช้ Bluetooth
-ถ้าไม่มี
ให้ถือโทรศัพท์ให้ห่างหูให้มากที่สุด เท่าที่คุยได้ยิน หรือเปิด Speaker จะได้ไม่ต้องเอามาแนบหู เวลาไม่ใช้เน็ท
ให้ปิดทั้ง WiFi และ Data แล้วค่อยพกใส่กระเป๋า
จะปลอดภัยกว่าเปิดทิ้งไว้ ยกเว้นจะมีถุงกัน EMF ใส่
Cr. นพ.สมชาย เดชอมรธัญ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น