คุณใช้อยู่หรือเปล่า? สเตียรอยด์ (Steroid) น่ะ
สเตียรอยด์ (Steroid) เป็นชื่อเรียกโดยย่อของกลุ่ มยาที่มีชื่อเต็มว่า corticosteroid ยา กลุ่มนี้มีฤทธิ์และข้อบ่งใช ้มากมาย สามารถใช้ในโรคหรือภาวะต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย แต่สิ่งที่ทำให้ยากลุ่มนี้เ ป็นที่รู้จักมากที่สุดกลับเ ป็นผลเสียที่เกิดจากการใช้ steroid อย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้หลาย คนกลัวและปฏิเสธที่จะใช้ยาก ลุ่มนี้ ยากลุ่มสเตียรอยด์สามารถแบ่ งตามรูปแบบของการใช้ยาได้เป ็น 2 ประเภท ดังนี้
1. สเตียรอยด์ประเภทใช้ภายนอก มีตัวสเตียรอยด์ที่ใช้เป็นย าภายนอกหลายสิบชนิดด้วยกัน แต่สามารถแบ่งตามรูปแบบของย าและตัวอย่างของโรคที่ใช้ได ้เป็นยาทา (ทั้งในรูปครีม โลชัน ขึ้ผึ้ง) สำหรับรักษาผื่นแพ้ ลมพิษ ผิวหนังอักเสบ สะเก็ดเงินยาหยอดตา ยาป้ายตา ยาหยอดหู สำหรับรักษาภูมิแพ้หรืออักเ สบที่ตาและหูยาพ่นจมูก สำหรับรักษาโรคภูมิแพ้ที่มี อาการทางจมูก ริดสีดวงจมูกยาพ่นคอ สำหรับรักษาโรคหืด ภูมิแพ้ที่ทำให้เกิดอาการหอ บ
สเตียรอยด์ประเภทใช้ภายนอกเ หล่านี้พัฒนาขึ้นเพื่อให้ยา ออกฤทธิ์เฉพาะที่ โดยไม่จำเป็นต้องกินหรือฉีด ยา จึงช่วยหลีกเลี่ยงผลเสียที่ อาจเกิดขึ้นจากยาได้เป็นส่ว นใหญ่ เมื่อได้รับยากลุ่มนี้และใช ้ตามคำแนะนำการใช้ยาอย่างเค ร่งครัด เช่น ใช้ยาทาเฉพาะบริเวณที่เป็นผ ื่น ไม่ทาลงบนผิวหนังที่ปกติ ไม่ทาหนา ไม่ทาเป็นบริเวณกว้างและไม่ ทาต่อเนื่องเป็นเวลานาน ใช้ยาหยอดตา ยาป้ายตา ยาหยอดหู เฉพาะข้างที่เป็น ด้วยจำนวนหยด จำนวนครั้งและระยะเวลาตามคำ สั่งใช้ยา ใช้ยาพ่นจมูกและยาพ่นคอด้วย วิธีการพ่นยาที่ถูกต้อง ไม่พ่นบ่อยเกินกว่าที่กำหนด บ้วนปากหลังพ่นคอทุกครั้ง ถ้าใช้ยาได้อย่างถูกต้องตาม คำแนะนำ ยาภายนอกเหล่านี้มักจะไม่ทำ ให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ท ี่รุนแรง และเนื่องจากความปลอดภัยของ ยานี้เอง ทำให้สามารถซื้อยาใช้ภายนอก ที่มีตัวยา steroid ได้ที่ร้านยาทั่วไป ภายใต้คำแนะนำการใช้ยาอย่าง ถูกต้องของเภสัชกร
2. สเตียรอยด์ประเภทกินและฉีด ถึงแม้จะมีสเตียรอยด์ประเภท ใช้ภายนอกมากมาย แต่การรักษาโรคหรือภาวะบางอ ย่าง จำเป็นต้องใช้ยากินหรือยาฉี ดเท่านั้น เช่น อาการแพ้บางชนิด โรคหืดชนิดรุนแรง โรคภูมิคุ้มกันไวเกิน ผู้ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนอ วัยวะ เป็นต้น เช่นเดียวกับยาใช้ภายนอก ถ้ากินหรือฉีดยาสเตียรอยด์ใ นขนาดน้อยๆ เพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ มักไม่ทำให้เกิดอาการไม่พึง ประสงค์ที่รุนแรง แต่ถ้ากินหรือฉีดต่อเนื่องเ ป็นเวลานาน จะก่อให้เกิดผลเสียที่รุนแร งหลายประการด้วยกัน ได้แก่ ติดเชื้อโรค (ยากดการทำงานของภูมิคุ้มกั นในร่างกาย) เป็นเบาหวาน (ยาทำให้น้ำตาลในเลือดสูง) บวมและความดันโลหิตสูง (ยาทำให้ขับน้ำลดลง แต่เพิ่มการสะสมไขมันที่หน้ า หลังและท้อง) กระดูกพรุน (ยารบกวนสมดุลการสร้างกระดู ก) รวมทั้งเป็นแผลในทางเดินอาห าร ผิวหนังเหี่ยวย่นและบาง ตาเป็นต้อ การทำงานของต่อมหมวกไตผิดปก ติ รบกวนการเจริญเติบโตในเด็ก เป็นต้น
จะเห็นได้ว่าวิธีการใช้ยาสเ ตียรอยด์เป็นสิ่งสำคัญซึ่งผ ู้ใช้ยาจะต้องคำนึงถึงมากที ่สุด ว่าจะต้องใช้จำนวนมากน้อยเท ่าใด ใช้ด้วยความถี่กี่ครั้งและใ ช้ต่อเนื่องนานเท่าใด เพราะเมื่อใดที่ใช้มากเกินก ว่าที่ควร จะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่ อการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ ที่ได้กล่าวมาทั้งหมดทันที
ประเด็นสุดท้ายและเป็นที่มา ของอาการไม่พึงประสงค์จากสเ ตียรอยด์ที่สำคัญที่สุดคือ “การได้รับยาสเตียรอยด์โดยไ ม่รู้ตัว” ไม่ว่าจะเป็นจากยาชุด ยาลูกกลอน ยาสูตรสมุนไพร ยาต้ม ยาหม้อ ยาพระ รวมทั้งยาที่อวดอ้างสรรพคุณ ในการรักษาได้สารพัดโรค เนื่องจากยาเหล่านี้มักจะมี ส่วนผสมของยาในกลุ่มสเตียรอ ยด์อยู่ ทำให้เห็นผลในการบรรเทาทุกอ าการได้อย่างรวดเร็วโดยที่ไ ม่พบอาการไม่พึงประสงค์ใดๆ ผู้ใช้ยาจึงมักรู้สึกพึงพอใ จกับผลของยา โดยไม่ได้มุ่งรักษาที่สาเหต ุของโรคโดยตรง แต่ยิ่งใช้ยาต่อเนื่องเป็นเ วลานานมากขึ้นเท่าใด อาการไม่พึงประสงค์ของ steroid ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น พร้อมกับความรุนแรงของโรคที ่มากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากไม่ได้รับการรักษา ที่ตรงสาเหตุอย่างทันท่วงที จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาเห ล่านี้โดยเด็ดขาด
เอกสารอ้างอิง
Bertram GK, eds. Basic and clinical pharmacology, 10th ed. New York: McGraw-Hill, 2007.Rang HP, Dale MM, Ritter JM, Moore PK. Pharmacology, 5th ed. Churchill Livingstone, 2003.
ข้อมูลจาก:คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
1. สเตียรอยด์ประเภทใช้ภายนอก มีตัวสเตียรอยด์ที่ใช้เป็นย
สเตียรอยด์ประเภทใช้ภายนอกเ
2. สเตียรอยด์ประเภทกินและฉีด ถึงแม้จะมีสเตียรอยด์ประเภท
จะเห็นได้ว่าวิธีการใช้ยาสเ
ประเด็นสุดท้ายและเป็นที่มา
เอกสารอ้างอิง
Bertram GK, eds. Basic and clinical pharmacology, 10th ed. New York: McGraw-Hill, 2007.Rang HP, Dale MM, Ritter JM, Moore PK. Pharmacology, 5th ed. Churchill Livingstone, 2003.
ข้อมูลจาก:คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น