วัดทุ่งบ่อแป้น จังหวัดลำปาง
เส้นทาง : ใช้เส้นทางที่เราเดินถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ลำปาง-เชียงใหม่
อยู่บริเวณซ้ายมือก่อนถึงอำเภอห้างฉัตรเล็กน้อย จะมองเห็นป้ายวัดที่เอารูปมาลงน่ะค่ะ หลังจากนั้นก็ดูป้ายตามทางไปเรื่อยๆ นะคะ
ปากทางเข้าวัดค่ะ ต้องสังเกตหน่อยนะคะ เดี๋ยวจะเลยค่ะ..............
พอไปถึงก็ต้อง ติดต่อที่ฝ่ายต้อนรับ มีเจ้าหน้าที่สาว ๆ อัธยาศัยดีมาก มีพยาบาลด้วย ออกมาตรวจวัดความดัน พร้อมสอบถามประวัติอย่างละเอียด ฉันมีน้องชายและน้องสะใภ้ไปด้วย เราเดินดูรอบ ๆ บริเวณซึ่งบรรยากาศสดชื่น มีสนามสวย สถานที่สะอาด มีอาคารห้องพัก เรียงรายแบ่งประเภท ตามอัตภาพ ราคาก็ไม่แพง เพราะไม่ใช่รีสอร์ทสำหรับนักท่องเที่ยว แต่ก็มีทุกอย่างที่คนป่วยและคนดูแลต้องการ มีห้องให้เลือกหลายราคา ตั้งแต่ 180 บาท ไปจนถึง 500 บาท ต่อคืน
ประมาณหัวอกเดียวกัน ผู้มาเฝ้าไข้ก็พลอยเสวนากันอย่างสนิทสนม
บางคนก็ขยัน บางคนก็อู้ ๆ บางคนก็นั่งเม้าธ์กันไม่ซีเรียส
แค่ประสบการณ์ในที่นี้ก็ทำให้ฉันเข้าใจคนป่วยโรคนี้มากขึ้น มีนักกายภาพ พยาบาล สับเปลี่ยนกันมาดูแลตลอดเวลา
"การซ่อมร่าง...แบบร้อนๆ"
ฉันมาอยู่ที่นี่เพียง 7 วัน (เจ็ดวันเท่านั้นจริง ๆ ) เพราะ เจ้าหน้าที่บอกว่าฉันดูไม่เข้าพวก เพราะสามารถช่วยเหลือตัวเองได้เยอะมาก
ฉันเดาว่าเขาคงหมายถึงฉันอาจจะพัฒนาต่อไปไม่ได้แล้วในสถานที่นี้เพราะฉันพูดได้ชัดเจนขึ้นมากเดินได้ค่อนข้างดีแล้วหลังจากมาอยู่ที่นี่ได้ 7 วันตอนเช้าฉันก็ออกมาเดินสูดอากาศบริสุทธิ์เพราะว่าเป็นสถานที่กว้างมากมีทุ่งหญ้าเขียวสวยงามกลางวันก็ฝึกทั้งวันในอาคาร ส่วนการฝึกกล้ามเนื้อมือที่อ่อนแรง ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อมัดเล็ก จะใช้เวลานานมากกก สามารถทำได้เองที่บ้าน(อาจจะเป็นหลาย ๆ ปีฉะนั้นฉันจึง ไม่ควรอยู่ที่นี่นาน ๆ เพราะอุปกรณ์มีจำกัด น่าจะให้คนป่วยที่ต้องการมันมากกว่าฉัน ดีกว่า (มีอุปกรณ์บางอย่างและการให้บริการบางอย่างที่เราจะต้องใช้เงินจ่ายค่าบริการอย่างเช่นการใช้เก้าอี้ไฟฟ้าปั่นขาการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าบางชนิดรวมไปถึงการนวดเราก็ต้องจ่ายค่านวดเอง สิริรวมแล้วไปอยู่ 7 วันใช้เงินคงจะประมาณซัก 20,000 บาทเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆค่ะ
สรุปเรื่องของวัดทุ่งบ่อแป้นนี้นะคะตอนหลังมาหลังจากหลังจากนั้นมาประมาณสัก 2 ปีหลังจากที่ฉันไปใช้บริการอยู่ไม่นานเนี่ย 2 ปีก็ถูกปิดนะคะ ไม่ได้ถูกสั่งให้ปิดแต่มาปิดตัวเองอาจจะเนื่องจากค่าใช้จ่ายฉันเดาเอาเองนะเพราะว่าค่าบริการมันถูกมากได้แต่ค่าห้องค่าอาหารทุกคนก็ต้องไปซื้ออาหารกินเองที่มีแม่ค้ามาขายตอนเช้าสถานที่ไม่ได้ทำร้านอาหารขายก็ไม่มีกำไรอะไรจากส่วนนั้นแล้วเราชอบนวดนวดแล้วก็จ่ายโดยตรงกับหมอนวดคงจะไม่มีผลประโยชน์อะไร เพราะค่าแรงหมอนวด ก็นิดๆหน่อยๆเป็นการบริจาคให้ทางวัดมากกว่านะหมายถึงพวกหมอนวด นอกนั้นก็จะมองไม่เห็นว่าสถานที่จะได้เงินมาจากไหนไม่รู้ว่าญาติโยมหรือใครบริจาคอย่างไรบ้าง
เข้าไปดูในเพจของวัดก็ไม่ค่อยเคลื่อนไหวนะคะอาจจะไม่ใช่นักธุรกิจอะนะหยุดไปอยู่หลายปีเหมือนกันนะแต่เมื่อเร็วๆนี้เห็นบอกว่าจะมาเปิดใหม่อีกแล้วในเดือนมีนาคมนี้แหละก็คงจะเปิดแล้ว
ขณะที่เขียนเรื่องนี้อาจจะเปิดแล้วใครสนใจก็ลองโทรไปสอบถามดูนะคะเดี๋ยวจะเอาลิงก์ของเพจวัดทุ่งบ่อแป้นมาวางไว้ให้นะคะ
ฉันจึงอยากจะสรุปว่าทุกคนสามารถดิ้นรนที่จะไปรักษาที่ไหนก็ได้ใครว่าอะไรดี ที่ไหนดี เราก็ไปหมด!!!
ฉันจึงไม่ปิดกั้นคนที่มาโพสโฆษณาเรื่องของการจัดกระดูกบีบนวดอะไรต่างๆเพราะฉันเคยตกที่นั่งนั้นต้องไปทุกที่ที่คนว่าดีแต่ไม่ได้หมายความว่ามันได้ผลหรือไม่ได้ผลมันอยู่ที่ใจเรานะเราต้องสัมผัสเราต้องเรียนรู้ที่จะรู้จักร่างกายของเราเองว่าแบบนี้มันดีหรือไม่ดีกับร่างกายเรา
แต่ในขณะเดียวกันเราก็ต้องมีความรู้สากลทั่วไปด้วยว่ามันหมายถึงเส้นเลือดตราบใดที่ถ้าเส้นเลือดเรายังตีบยังตันถึงมันจะแตกไปแล้วอ่ะมันเปราะแล้วมันอาจจะแตกอีกแต่ตีบและตันนี่สำคัญมาก
ทำไมมันยังตีบยังตันอยู่ล่ะ?
เพราะว่าคุณยังไม่ได้ทะลุทะลวงมันเลยอ่ะ
คุณยังอ้วนอยู่เมื่อคืนยังกินเหมือนเดิมพฤติกรรมเดิม
น้ำหนักคุณก็ยังอ้วนแถมยังลุกไปไหนไม่ได้เพราะคุณป่วยอยู่
คุณจะฟื้นได้ยังไงเพราะว่าเส้นเลือดมันก็ตันนะ
คุณต้องออกกำลังกายคุณต้องทำให้เส้นเลือดมันไหลอ่ะ
ทำอะไรก็ได้ให้เส้นเลือดมันโล่งมันไหลอ่ะ
พอมันโล่งสมองมันก็จะสั่งงานเองมันจะค่อยๆพัฒนาและเริ่มสั่งงานเอง
สรุปแล้วการทำกายภาพน่ะดีที่สุดดูบางสถานที่ฉันเคยไปมาจนถึงที่ชลบุรีเหมือนกันนะมีหมอโหดมากเสียงคนไข้เข้าไปรักษานะจำไม่ได้ว่าชื่อหมออะไรเดี๋ยวต้องไปค้นหาบันทึกความจำเล่มเก่าๆเข้าไปในปากซอยก็ได้ยินเสียงแล้วอ่ะว่าหมอคนนี้คงคิดไปเองนะว่าต้องโหดโหดเข้าไว้
ต้องดุด่าไปด้วยชาวบ้านก็จะรู้สึกว่าเออมีคนหวังดีกับเราเสียเงินแล้วยังไปถูกด่าอีกอ่ะฉันว่ามันดูหยาบไปหน่อยนะ
| |||||
ขอบคุณที่ตามมาอ่าน คอมเม้นท์ได้นะคะ
ตอบลบดีใจจังที่ทักมา 💝💋