บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กันยายน, 2019

เรื่องฮีทสโตรกหรือโรค ลมแดด !!!

รูปภาพ
เรื่องฮีทสโตรกหรือโรค ลมแดด !!! ☾☆★★☾☆★★☾☆★★☾☆★★☾☆ ทุกๆคนต้องรู้นะคะ...เตือนกันอีกทีค่ะ!!! # ร้อนจนตาย  Heat stroke (ลมแดด) อาการเป็นอย่างไร สังเกตตัวเอง หรือ  # ช่วยชีวิตอย่างไร แดดแรงเปรี้ยง ๆ อยู่ ๆ เขาล้มลง  # หมดสติ  หลายคนวิ่งไปดู ต่างเอายาดมมาอังจมูก บ้างมาบีบนวด พยายามช่วย เขาไม่ฟื้น . หัวใจเขาหยุดเต้น และเสียชีวิต ทุกคนช็อค เพราะก่อนหน้านี้ เขาดูแข็งแรงดี เป็นนักกีฬา ยังวิ่งเหยาะ ๆ  # ไม่มีโรคประจำตัว  อะไร ตายแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย นี่แหละ ความน่ากลัวของ  # heatstroke . Heat stroke (อ่านว่า ฮีท สโตรค) มีแพทย์อธิบายไว้หลายท่าน ให้เราอ่านแล้วมึน มากมาย แต่ครูจะอธิบายเป็นภาษาคน ไม่ต้องใช้ศัพท์ยากมาก มันคือ “ภาวะ  # ร่างกายร้อนจัด  จนเครื่องพัง  # ระบบภายในล้มเหลว ” วิธีแก้ไขจึงไม่ใช่เอายาดมให้ดม เดี๋ยวจะบอกวิธีขั้นตอนช่วยเหลือให้ แชร์เก็บไว้ช่วยเหลือกันนะ ฮีทสโตรค พบมากในช่วง  # อากาศร้อนจัด  และกลุ่มเสี่ยงคือ คนแก่ เด็กเล็ก และนักกีฬาที่ออกกำลังกาย กลางแจ้ง หรือคนที่ทำงานกลางแจ้ง  # ท่ามกลางอา...

ยาแก้ปวดศีรษะไมเกรน Ergotamine ใช้อย่างไรจึงจะปลอดภัย

รูปภาพ
ยาแก้ปวดศีรษะไมเกรน Ergotamine ใช้อย่างไรจึงจะปลอดภัย ไมเกรน (migraine) เป็นโรคปวดศีระษะที่พบได้บ่อยทั้งเด็กและผู้ใหญ่  สาเหตุของโรคเชื่อว่าอาจเกิดจากพันธุกรรม หรือ ปัจจัยกระตุ้น (trigger factor)จากสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่งผลทำให้หลอดเลือดแดง (vasodilation) ทั้งด้านในและด้านนอกกระโหลกเกิดการขยายตัวได้มากและง่ายกว่าคนปกติ และทำให้เกิดอาการปวดศีรษะในที่สุด การค้นหาปัจจัยกระตุ้นให้พบและหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นเหล่านั้นเป็นการป้องกันอาการปวดศีรษะไมเกรนที่ดีและปลอดภัย แต่อย่างไรก็ดีการใช้ยารักษาอาการปวดศีรษะไมเกรนก็อาจมีความจำเป็นในผู้ป่วยบางราย เช่น ผู้ป่วยที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นได้ หรือเมื่ออาการกำเริบผู้ป่วยจะมีอาการปวดศีรษะที่รุนแรง เป็นต้น ยาที่ใช้ในโรคปวดศีรษะไมเกรนอาจแบ่งได้เป็นสองประเภทใหญ่ๆ คือ ยาที่ใช้ รักษา อาการปวดศีรษะไมเกรนฉับพลัน (abortive drugs)และยาที่ใช้ ป้องกัน การเกิดไมเกรน (preventive drugs) ซึ่งยาที่พบว่ามีการใช้บ่อยและมีข้อควรระวังในการใช้ยาค่อนข้างมาก คือ ยา ergotamine ซึ่งเป็นยาประเภทที่ใช้รักษาอาการปวดศีรษะไมเกรนฉับพลัน Ergotamine คืออะไร Er...

หมอเผยภาพสุดน่ากลัว กินยาเออร์กอต แก้ไมเกรน มือเท้าตายสุดท้ายต้องตัดทิ้ง

รูปภาพ
(5 ก.ย.62)  ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา  อาจารย์สาขาประสาทวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ภาพผ่านเฟซบุ๊ก  ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha  เป็นภาพมือและเท้าของคนไข้ที่ดำคล้ำน่ากลัว พร้อมระบุถึงอันตรายจากยา "เออร์กอต" หรือยาแก้ปวดไมเกรนว่า "อันตรายจากการกินยา “เออร์กอต” ชื่อการค้ามีหลายชื่อ ที่ใช้ในการแก้ปวดหรือบรรเทาปวดหัวไมเกรน เป็นยาที่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังสูงสุดเพราะถ้ามีโรคประจำตัวหัวใจ เส้นเลือดตีบ หรือใช้ยาตัวอื่นๆ อยู่ รวมทั้ง ยาฆ่าเชื้อรา ยารักษาโรคเอดส์ จะทำให้ยาแก้ปวดตัวนี้ออกฤทธิ์มากขึ้นและทำให้เส้นเลือดหัวใจสมอง ที่ปลายมือปลายเท้าแขนขาหดตัวอย่างรุนแรง ขาดเลือด หัวใจวาย อัมพฤกษ์ จนกระทั่ง ถึงกับต้องถูกตัดแขนขาไป" อย่างไรก็ตาม ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ได้ออกมาเตือนถึงอันตรายของยาเออร์กอตมาอย่างต่อเนื่องหลายปี เนื่องจากเป็นยาที่มีฤทธิ์รุนแรงและอันตราย แต่ที่เห็นวางขายอยู่ตามร้านขายยาต่างๆ ได้ตามปกติ เพราะหากใช้อย่างถูกวิธีจะไม่เป็นอันตรายใดๆ เพียงแต่ผู้ป่วยหลังได้รับยาเออร์กอตจากแพทย์แล้ว อาจไปซื้...

มีสติก่อนกิน! ยาเออร์กอต แก้ไมเกรน เสี่ยงติดเชื้อ-ตัดแขนขาทิ้ง

รูปภาพ
แพทย์ดังออกมาเตือน ยาเออร์กอต สำหรับรักษาผู้ป่วยไมเกรน อันตรายหากไม่ปรึกษาแพทย์ก่อนทาน เสี่ยงติดเชื้อ ตัดมือแขนขา อาจลามไปส่วนอื่นของร่างกาย และอาจถึงขั้นเสียชีวิต ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการโรคทางสมอง รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวถึงยาเออร์กอต หรือ ยาเออร์โกตามีน (Ergotamine) หรือยาชื่อการค้าที่มักรู้จัก คือ ยาคาเฟอร์กอท (Cafergot ) ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ว่า ยาเออร์กอตมีฤทธิ์รุนแรงและอันตรายจริง แต่ที่เห็นวางขายอยู่ตามร้านขายยาต่างๆ ได้ตามปกติ เพราะหากใช้อย่างถูกวิธีจะไม่เป็นอันตรายใดๆ เพียงแต่ผู้ป่วยหลังได้รับยาเออร์กอตจากแพทย์แล้ว อาจไปซื้อเองในภายหลัง หรือเภสัชกรเองอาจไม่สามารถทราบถึงประวัติการรักษาของผู้ป่วยได้โดยละเอียด จึงขายยาตัวนี้ให้ผู้ป่วยไป ยาเออร์กอต อันตราย หากใช้คู่กับยาตัวอื่น และใช้มาก หรือเป็นเวลานานเกินไป ยาเออร์กอต ถือเป็นยาโบราณที่มีการใช้กันในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 30-40 ปีแล้ว ใช้แก้ปวดเฉียบพลันสำหรับผู้ป่วยโรคไมเกรน และตามข้อบ่งชี้ของตัวยาบอกว่า สามารถใช้ได้ถึง 6-8 เม็ดต่อวัน แต่ศ.นพ.ธีระวัฒน์ อธิบาย อยากให้คนไทยเข้าใจกันใหม่ว่า คนที่สามารถ...

หลอดเลือดตีบ‼ เพราะ...ไม่รู้สิ่งนี้

รูปภาพ